ติดตามสถานะการสั่งซื้อ

สเปค

• Bluetooth 5.3 
• Chipset : WQ7034MX
• Dynamic Driver 16.2 mm
• รองรับการฟังเพลงแบบ Hi-Res Audio (LDAC)
• Bluetooth® Codec : LDAC / AAC / SBC
• Dual Microphone With ENC Technology
• กันน้ำ : IPX5
• Game Mode 60 ms Low Latency
• Dual Device Connection สามารถสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ 2 ได้
• ดีไซน์แบบ Open-Ear ทำให้คุณได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกสภาพแวดล้อม
• ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 10 – 11.5 ชม. / ชาร์จ ที่ความดัง 50% รวมเคสชาร์จได้สูงสุด 39 ชม.
• แบตหูฟังข้างละ 80 mAh ระยะเวลาในการชาร์จหูฟัง 1.5 – 2 ชม.
• กล่องชาร์จ 600 mAh / Input 5V/1A
• การชาร์จ : Type-C , Wireless charging
• Frequency range : 20Hz~40kHz
• ขนาดหูฟัง (L*W*H）49.84 x 38.56 x 22.24 mm
• ขนาดกล่องชาร์จ (L*W*H）64.0 x 64.0 x 23.2 mm
• น้ำหนัก : 203 g
•  ใช้งานร่วมกับ PeatsAudio APP ได้

การรับประกัน และของแถม

• รับประกัน 12 เดือน
• สายชาร์จ USB C
• คู่มือการใช้งาน

การใช้งานครั้งแรก

• เปิดฝาเคสนำหูฟังทั้ง 2 ข้างออกมา จากนั้นดึงแผ่นฟิล์มที่ปิดขั้วชาร์จออก (ถ้ามี) แล้วใส่กลับเข้าไป  
• เสียบสายชาร์จที่อยู่ในกล่องเข้ากับกล่องชาร์จ หรือชาร์จแบบ Wireless charging 
•  ชาร์จทิ้งไว้ประมาณ 1.5 – 2 ชม.
• แนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนการใช้งาน

การเปิด – ปิดหูฟัง

1. การเปิดหูฟังแบบ Auto เปิดกล่องชาร์จ (หูฟังเปิดโดยอัตโนมัติ)
2. การเปิดหูฟังแบบ Manual หากหูฟังปิดอยู่ให้แตะที่บริเวณแผงรับฟังก์ชั่นประมาณ 1.5 วินาที
3. การปิดหูฟัง Auto นำหูฟังทั้ง 2 ข้างใส่กลับเข้ากล่องชาร์จและปิดฝากล่องชาร์จ หูฟังจะปิดและชาร์จแบตเตอรี่ให้โดยอัตโนมัติ
4. การปิดหูฟังแบบ Manual หากหูฟังเปิดอยู่ให้แตะที่แผงรับฟังก์ชั่นประมาณ 10 วินาที

การจับคู่และการเชื่อมต่อ

หูฟังจะเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติให้ในการเชื่อมต่อครั้งถัดไป เพียงแค่เปิดฝากล่องชาร์จ

1. เปิดฝากล่องชาร์จ
2. เปิดบลูทูธบนอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ เลือก “SOUNDPEATS GoFree 2+” บนอุปกรณ์
3. หลังการเชื่อมต่อจะขึ้นสถานะหลังชื่อบลูทูธว่า “เชื่อมต่ออยู่” หรือ “Connected”

เปิดใช้งาน Dual Device Connection

1. เชื่อมต่อ GoFree 2+ กับอุปกรณ์ A
2. เข้าแอป PeatsAudio เพื่อเปิดฟังก์ชัน Dual Device Connection
3. ปิด Bluetooth ของอุปกรณ์ A และเปิด Bluetooth ของอุปกรณ์ B
4. ทำการเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ B เมื่อจับคู่เสร็จแล้ว ให้เปิดบลูทูธบนอุปกรณ์ A ที่ปิดไว้
5. อุปกรณ์ทั้ง 2 จะขึ้น “เชื่อมต่ออยู่” หรือ “Connected”

การใช้งานปุ่มควบคุมฟังก์ชั่น

• ควบคุมการเล่นเพลง
  • เล่นเพลง / หยุดเพลง : แตะแผงฟังก์ชั่น 2 ครั้งที่หูฟังได้ทั้งซ้ายหรือขวา
  • เล่นเพลงถัดไป : แตะแผงฟังก์ชั่นค้าง 1.5 วินาทีที่หูฟังด้านขวา
  • เล่นเพลงก่อนหน้า : แตะแผงฟังก์ชั่นค้าง 1.5 วินาทีที่หูฟังด้านซ้าย
  • เพิ่มเสียง : แตะหูฟังข้างขวา 1 ครั้ง
  • ลดเสียง : แตะหูฟังข้างซ้าย 1 ครั้ง
• ควบคุมฟังก์ชันโทรศัพท์
  • รับ/วางสายโทรศัพท์ : แตะแผงฟังก์ชั่น 2 ครั้งที่หูฟังได้ทั้งซ้ายหรือขวา
  • ปฏิเสธสายโทรศัพท์ : แตะแผงฟังก์ชั่นค้าง 1.5 วินาทีที่หูฟังได้ทั้งซ้ายหรือขวา
  • สลับสายการสนทนา : แตะแผงฟังก์ชั่นค้าง 1.5 วินาทีที่หูฟังได้ทั้งซ้ายหรือขวา (ขณะคุยสายและมีอีกสายพักสายรออยู่)
  •  เรียกใช้งาน Voice Assistant (iOS/Android) : แตะแผงฟังก์ชั่น 3 ครั้งที่หูฟังด้านขวา
  • การเปิด/ปิดใช้งาน Game mode : แตะแผงฟังก์ชั่น 3 ครั้งที่หูฟังข้างซ้าย

ไฟสถานะ LED บนกล่องชาร์จ

ในกรณีที่ไม่ได้เสียบสายชาร์จ

• 100% – 50 % : ไฟแสดงสถานะเป็นสีเขียว
•  49% – 10% : ไฟแสดงสถานะเป็นสีเหลือง
• น้อยกว่า 10% : ไฟแสดงสถานะเป็นสีแดง

ในขณะเสียบสายชาร์จ

•  100% : ไฟสถานะเป็นสีเขียวติดค้าง
• 99% – 70% : ไฟสถานะเป็นสีเขียวกระพริบช้าๆ
• 69% – 20% : ไฟสถานะเป็นสีเหลืองกระพริบช้าๆ
• น้อยกว่า 20% : ไฟสถานะเป็นสีแดงกระพริบช้าๆ

วิธีการรีเซ็ตหูฟัง

1.  นำหูฟังลงกล่องชาร์จ
2. เปิดฝากล่องชาร์จ และกดปุ่มบนกล่องชาร์จค้างไว้เป็นเวลา 10 วินาที
3.  รอจนกระทั่งไฟในเคสชาร์จกะพริบขาว สลับ เขียว ก็ถือว่ารีเซ็ตเสร็จสมบูรณ์

หากต้องการฟังเพลงระดับ Hi-Res (LDAC) มีเงื่อนไขดังนี้

1. หูฟังและมือถือต้องรองรับ Bluetooth Codec แบบ LDAC
2. ไฟล์เพลงต้องรองรับ Bitrate แบบ Hi-Res ส่วนมากมีในแอป Tidal
3. Andriod บางรุ่น มี Codec : LDAC ให้ใช้ แต่ใช้ไม่ได้ (ระบบรองรับแต่ชิบบลูทูธไม่รองรับ)
4. IOS ไม่รองรับการฟังเพลงไร้สายแบบ Hi-Res
5. การเปิดใช้ Codec : LDAC จะทำให้หูฟังกินแบตอาจจะใช้งานได้ลดลง
6. รบกวนตรวจสอบมือถือของท่านกับค่ายมือถือ

ข้อควรระวัง

•  ควรใช้หัวชาร์จที่ Input 5V/1A หรือไม่เกิน 10W เมื่อไม่ได้ใช้งานนานๆให้ชาร์จอย่างน้อย 1 ครั้งทุก 3 เดือน
• บาง Program หรือ APP อาจจะมีปัญหากับหูฟังบลูทูธทำให้มีเสียงหรือสัญญาณแปลกๆ
• Discord ไม่แนะนำให้ใช้งานกับหูฟัง เพราะอาจเจออาการกระตุก
• Skype ไม่แนะนำให้ใช้งานกับหูฟัง
• สำหรับ Android บางรุ่น และในบางโปรแกรมอาจจะไม่สามารถใช้งานหูฟังได้ครบทุกฟังก์ชั่น เช่น JOOX
• บาง APP ไม่สามารถใช้ function ของหูฟังได้ เช่น Facebook Messenger Call, Line ไม่สามารถรับ/วางสายได้ต้องกดที่มือถือ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่ APP นั้นๆไม่ใช่ที่หูฟัง